Traveloka TH
02 Aug 2018 - 6 min read
ฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม และเมืองใหญ่อันดับสองรองจากโฮจิมินห์ ถ้าใครพูดถึงเวียดนาม มันก็ต้องมีฮานอยอยู่ในลิสเมืองที่จะไปเที่ยวมั้งแหละ เพราะฮานอยถือเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านการปกครองของเวียดนามที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปีมาแล้ว (ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ) และเมื่อครั้งที่เวียดนามเป็นประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส ฮานอยถือเป็นเมืองหลักที่ฝรั่งเศสตั้งเป็นจุดศูนย์กลางในการปกครองอีกด้วย
เก่าแก่และสำคัญขนาดนี้ แน่นอนว่าสถานที่เที่ยวส่วนใหญ่ในฮานอยก็จะเป็นฟีลเมืองเก่าเวียดนามผสมกับสถาปัตยกรรมแบบโรมันที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้น ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้เองที่ทำให้ฮานอยมีเสน่ห์และความขลังที่ไม่เหมือนเมืองไหนในเวียดนามจริงๆ ยั่วให้เที่ยวขนาดนี้แล้ว ตามไปอ่านและเที่ยวกันเลยดีกว่า
ทั้งหมดเราสามารถเที่ยวแบบเก็บหมดได้ภายใน 3 วันเต็มแบบชิลๆ โดยทริปนี้คือเน้นแลนด์มาร์คสำคัญของฮานอย ที่พูดได้เต็มปากเลยว่า เก็บหมดนี่คือแทบไม่ต้องกลับมาเที่ยวฮานอยใหม่อีกรอบแล้ว 5555555
วันที่ 1
- พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์
- วัดเจดีย์เสาเดียว
- สุสานโฮจิมินห์
- วิหารกวานแท่ญ
วันที่ 2
- โบสถ์เซนต์โจเซฟ
- รอบทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม
วันที่ 3
- สะพานลองเบียน
- ทางรถไฟฮานอย
- ตึกล็อตเต้เซ็นเตอร์
ทั้งหมดทั้งมวลของทริปนี้ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน แน่นอนว่าทุกอย่างนั้นจองผ่านเว็บ Traveloka เด้อ ของพี่เค้าถูก สะดวก และทุกอย่างดูได้ผ่านแอพมือถือ แนะนำเลย!
สำหรับทริปนี้ ก๊อตบินตรงด้วยสายการบิน Thai Lion Air ซึ่งขอไม่พูดมากว่าของเค้าดีย์จริงนะเว้ย จากทริปนี้นั้น การเดินทางทุกอย่างราบรื่นเป็นไปด้วย พนักงานกราวด์จนถึงแอร์บนเครื่องนั้นบริการดีมาก
ที่ชอบสุดคือของการบิน Thai Lion Air คือ เราจะได้โหลดกระเป๋าฟรี 20 กิโลโดยที่เราไม่ต้องจ่ายเพิ่ม บอกเลยว่าหากใครที่คิดจะไปเที่ยวฮานอย แนะนำบิน Thai Lion Air นั้นแหละ ดีที่สุดเล้ย :D
ตามที่เคยบอกก่อนหน้าที่จะไปเที่ยวเวียดนามว่า .. จะเอารูปจากกล้องใหม่ Canon EOS M50 ตัวนี้มาฝาก ซึ่งก็คือรูปในทริปฮานอยนี้นั่นแหละจ้าาา ให้รูปเป็นว่าให้รูปพิสูจน์เอาว่ารูปภาพจากกล้อง Canon EOS M50 นั้นเป็นยังไงบ้าง อะ ลองดู
สำหรับใครท่ีอยากรู้สเป็คของกล้อง เคยเขียนลงเพจ Hashcorner แล้ว
คลิกดูที่นี่เลย http://bit.ly/2mXK4A5
ที่แรกของการเที่ยวฮานอย ขอเริ่มที่พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์กันก่อน ซึ่งถ้าใครเป็นคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ แนะนำให้มาที่นี่เป็นอย่างยิ่ง เพราะพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์เป็นสถานที่ที่เราสามารถเรียนรู้ชีวิตของ “โฮจิมินห์” อดีตผู้นำคนสำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์เวียดนาม ตั้งแต่การนำอิสรภาพมาสู่เวียดนามและสร้างประวัติศาสตร์รัฐคอมมิวนิสต์
เดินเข้าไปในตัวตึกสีขาวคือยิ่งใหญ่มากเมื่อได้เห็นรูปปั้นของท่านลุงโฮ และภายในตึกนี้ยังแบ่งออกหลายชั้นสำหรับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เวียดนาม ถ้าเราใช้เวลาจริงๆจังๆ คิดว่าน่าจะใช้เวลาเกือบครึ่งวันเลยทีเดียว ฮ่า
หากเรามาพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์แล้ว ให้เราเดินมาด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์หน่อยๆ ด้านซ้ายเราจะเจอกับวัดเจดีย์เสาเดียวที่ตั้งอยู่บนเสาปูนแท่งเดียวในสระบัว เจดีย์เสาเดียวที่นี่ถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของเวียดนามเช่นเดียวกัน
แนะนำให้เราเดินขึ้นไปไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิมด้านในเจดีย์ ซึ่งเค้าเชื่อกันว่า หากคู่รักคู่ไหนที่มาไหว้ขอพรที่นี่ ชีวิตการแต่งจะมีความสุขและมีลูกสืบสกุลอีกด้วย
เดินออกมาอีกซักพักจากวัดเจดีย์เสาเดียว เราจะเห็นลานกว้างที่มีสุสานโฮจิมินห์ตั้งอยู่ เสียดายที่เรามาสายไปหน่อย เพราะสุสานแห่งนี้เปิดตอน 8 โมงเช้า และปิดตอน 11 โมง คือปิดเร็วมาก ได้แต่ถ่ายรูปด้านนอก ฮือ
วิหารกวานแท่ญถือเป็นวัดและวิหารหนึ่งในฮานอยที่นี่รู้สึกว่าสวย โดยเฉพาะประตูทางเข้าวัดด้านหน้าที่ใหญ่ ดูสวยงามและมีความเป็นจีนค่อนข้างสูง เพราะวัดแห่งนี้เป็นวัดลัทธิเต๋าที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาแก่เทพเจ้าเสินหวู่ (Xuanwu)
วันที่สองของการเที่ยวฮานอย เราจะวนเวียนอยู่แถวๆทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม ซึ่งที่แรกที่เราจะมาก่อนคืออีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่น่ามาถ่ายรูปในฮานอยอย่างยิ่ง คือ โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St Joseph's Cathedral) โบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดในฮานอย มีอายุมากกว่า 130 ปี ซึ่งโบสถ์นี้ถือเป็นสิ่งก่อสร้างแรกๆที่สร้างขึ้นโดยฝรั่งเศสที่เข้ามาครอบครองเวียดนามนั่นเอง ของจริงคือสวยมากเลย
ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ ที่นี่คือแลนด์มาร์คสำคับที่แทบจะเป็นศูนย์กลางของจุดนัดพบของคนฮานอยเลย เราจะได้เห็นคนมานั่งอ้อยอิ่งชิลๆแบบสโลวไลฟ์กันที่นี่ หรือบ้างบางทีก็เจอกลุ่มคนสูงอายุมานัดเจอกันทำกิจกรรมต่างๆก็มี ซึ่งการเดินไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ รอบทะเลสาบก็สนุกดี ได้ดูผู้คน ดูวิถีชีวิตของบ้านเมืองเค้าเพลินๆ
ตรงกลางของทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมมีแลนด์มาร์คอีกสองจุดที่สำคัญคือ วัดหง็อกเซิน ที่เราต้องข้ามสะพานสีแดง หรือสะพานพระอาทิตย์เพื่อไปยังวัดแห่งนี้ แต่นี่ไม่ได้เข้าไปด้านในนะ ได้แต่ข้ามสะพานไปแล้วมองวิวๆรอบทะเลสาบ ถ้าใครสนใจก็เข้าไปได้เด้อ
อีกอันที่ตั้งเด่นสง่ากลางทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม คือ หอคอยเต่า ที่สร้างขึ้นตามตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับเต่าศักดิ์สิทธิ์ในทะเลสาบแห่งนี้
นอกจากแลนด์มาร์คกลางทะเลสาบแล้ว ถนนรอบๆของทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมยังมีความพิเศษไปอี๊ก คือ ถ้าเรามาเที่ยวฮานอยในวันเสาร์-อาทิตย์ ถนนรอบๆทะเลสาบจะปิดกลายเป็นถนนคนเดินที่คนเวียดนามเค้าจะออกมาทำกิจกรรมกัน อันนี้คือเซอร์ไพรส์มาก และที่ชอบสุดของบรรยากาศของถนนคนเดินนี้คือ มันดูโคตรอบอุ่นอ่ะ อย่างข้างนี้คือเค้ามาตั้งวงร้องเพลงกระทบไม้กัน เด็กฝรั่งก็มาเล่น คือเอ็นจอยสุด
ถัดจากถนนรอบๆทะเลสาบ เราจะเดินมายังจัตุรัส Dong Kinh Nghia Thuc ที่เป็นเหมือนกับเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นที่เค้าจะมารวมเป็นกลุ่มกันตามร้านกาแฟ คาเฟ่ ร้านอาหารตรงนี้ คึกคักมากเว่อร์
แนะนำให้เราขึ้นมายังร้าน Highlands Coffee บนตึกที่มีร้าน ALDO อยู่ด้านล่าง บอกเลยว่าตรงนี้วิวดี สามารถมองเห็นทะเลสาบตอนกลางคืนที่เปิดไฟสวยสุดๆ แถมยังเห็นจตุรัสด้านล่างที่คนพลุกพล่านไปมาได้อย่างเพลินๆอีกด้วย
วันสุดท้ายของฮานอยแล้วว เปิดที่แรกที่สะพานลองเบียนที่ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ฮิตในการถ่ายรูปสตรีทลง Instagram ในหมู่วัยรุ่นเวียดนามและหมู่นักท่องเที่ยวฝรั่งมากกกกกกก ใครมาเช้าๆ ตรงสะพานลองเบียงนี่มีตลาดสดด้วยเนอะ แต่ตอนนี้มาคือตลายวายแล้ว 55555
สะพานลองเบียงแห่งนี้ ถือว่าเป็นสะพานเก่าแก่ที่สุดในฮานอย สร้างตั้งแต่ปี 1898 นับจนถึงตอนนี้ก็มีอายุกว่า 120 ปีแล้ว นานม๊าก และนอกจากสะพานแห่งนี้จะถูกสร้างมายาวนานแล้ว ที่นี่ยังเป็นสะพานเหล็กแห่งแรกที่สร้างข้ามผ่านแม่น้ำแดง แม่น้ำเส้นที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามอีกด้วย
สะพานลองเบียงแห่งนี้เปิดให้สัญจรเฉพาะมอเตอร์ไซค์ และเป็นทางรถไฟข้ามเท่านั้นนาจา
อีกอันที่ต้องมาสุดๆ สำหรับการมาเที่ยวฮานอยคือ การมาดูรถไฟวิ่งผ่านชุมชนเล็กๆ ตามทางรถไฟ จุดที่เราสามารถปักหลักดูได้ จริงๆคือดูได้ระหว่างสถานทีรถไฟฮานอยและสถานีรถไฟลองเบียน แต่ถ้าแนะนำ.. ให้เราเสิร์ชใน Google Map คำว่า Hanoi Street Train แล้วไปตรงนั้นได้เลย
สำหรับระยะเวลาที่รถไฟวิ่งผ่านนั้น มีอยู่สองช่วงเวลาคือตอน 15.30 และ 19.30 นาจา ถ้าให้แนะนำคือให้มาช่วงบ่ายสามนั่นแหละดีสุดเด้อ สิ่งที่เราจะได้เห็นคือรถไฟวิ่งผ่านในระยะประชิดมากกกกก ตื่นเต้นสุดๆ (ทำให้นึกถึงตลาดร่มหุบในบ้านเราเบาๆ แต่ที่นี่ไม่มีตลาดจ้า 555555)
ที่สุดท้ายก่อนจากลาจากฮานอย เราจะไปดูเมืองฮานอยในมุมสูงกันที่ชั้น 65 ของตึกล็อตเต้เซ็นเตอร์ (Lotte Centre Hanoi) ใจกลางเมืองฮานอยกัน ซึ่งตึกนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คใหม่ที่สร้างเสร็จไม่นาน แถมมีดีกรีเป็นตึกที่สูงที่สุดอันดับ 2 ของเวียดนามด้วยนะเออ
สำหรับค่าเสียหายในการขึ้นไปยัง Observation Deck ชั้น 65 นั้นจะอยู่ที่ 230,000 ดอง ราคานี้เมื่อเทียบกับจุดชมวิวบนตึกสูงในประเทศอื่น ราคานี้ถือว่าถูกมากนะแกร๊ แนะนำให้มา
ที่พีคสุดของการมาดูวิวที่นี่คือ มันจะมีส่วนพื้นกระจกใสที่เราสามารถเดินออกไปได้ จะบอกว่าโคตรเสียวเลย 55555555555555
และการมาดูวิวฮานอยมุมสูงนี่แหละคือการปิดทริปฮานอยที่เวียดนามอย่างสมบูรณ์
สำหรับใครที่ชอบรีวิวและอยากดูรีวิวอื่นๆจากผมอีก
สามารถเข้าไปดูในเว็บ www.hashcorner.com ได้เลย
หรือถ้าอยากจะติดตามผ่าน Social Media สามารถคลิกได้ตามด้านล่างเลยคร้าบ
Facebook Page: www.facebook.com/hashcorner
Instagram: www.instagram.com/hashcorner