0

Traveloka TH

17 Jan 2019 - 6 min read

แบกเป้เที่ยวรัสเซีย | กลางวันสั้น~กลางคืนยาว จากมอสโคว์ ถึงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

จากมอสโคว์ (Moscow) ถึงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St.Petersburg)

แล้วความฝันก็เป็นจริง … ได้ไปเที่ยวรัสเซียอย่างที่ใจต้องการ ในแบบฉบับประหยัดของเรา รัสเซีย Russia ประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่มาก และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทริปนี้เกิดได้ด้วยการสอยตั๋วโปรของสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ Qatar Airways ฟูลเซอร์วิสเชียวนะ ตื่นเต้นบอกไม่ถูก จองตั๋วกันข้ามปีไว้เลย จากนั้นก็วางแผนจองที่พัก จองรถไฟ แต่ทว่าตั๋วราคาโปรที่ได้นี้ บินช่วงเดือนพฤศจิกายน มันก็หน้าหนาวซินะ กลางวันจะสั้น กลางคืนจะยาว หนาวอีกด้วย แต่เราก็มีเวลาเที่ยวชิลๆ ได้ตั้ง 8 วัน สบายมาก ไหวอยู่ แต่ก่อนไปก็ฟิตติ้งเสื้อกันและอุปกรณ์กันหนาวให้ดีนะคะ ที่สำคัญ มือ เท้า คอ หัว ต้องให้อุ่น จะได้เที่ยวแบบอบอุ่น อุ่นกาย แล้วอุ่นใจ

ทริปนี้แบ่งการเที่ยว 2 เมืองเท่าๆ กัน เมืองละ 4 วัน มอสโคว์ Moscow และ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก St.Petersburg ที่สำคัญคนไทยเที่ยวรัสเซียไม่ต้องใช้วีซ่า โดยตั๋วที่เราจองได้ บินลงเมืองมอสโคว์ ส่วนขากลับจาก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สะดวกเลยเที่ยวไปเรื่อยๆ แล้วนั่งรถไฟนอนจากมอสโคว์ไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แบบไม่ย้อนกลับมาที่เดิม ตามพวกเราไปเที่ยวรัสเซียนะคะ ว่ามันเที่ยวง่าย ราคาถูก โบสถ์ วัด วัง พิพิธภัณฑ์ รถไฟใต้ดิน สถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างของเค้ามันยิ่งใหญ่มากมายขนาดไหน

ก่อนไปก็เตรียมข้อมูลที่ต้องใช้งานให้เรียบร้อย

1. ที่พัก ก็จองจากเว็บ traveloka.com ได้ เห็นราคาเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้น มี code ส่วนลดมาบ่อยก็ช่วยประหยัด แล้วยิ่งถ้าจองใน

ค้นหาที่พักรัสเซีย เช็คราคาโรงแรมในรัสเซีย กับ Traveloka คลิกที่นี่

2. จองรถไฟจาก Moscow ไป St.Petersburg ผ่านเว็บไซต์ http://pass.rzd.ru/ จะได้ราคาถูกสุด จองได้ล่วงหน้า 90 วันก่อนวันเดินทาง มีแบบตู้นอน 2 เตียงและ 4 เตียง ขึ้นอยู่กับ Class ของรถไฟ ใช้เวลา 8 ชั่วโมง

3. โหลด App ต่างๆ เช่น Yandex map , Yendex Taxi , Metro , Google map ที่จะแสดงให้เห็นการเดินทางว่าจะเดินทางยังไง รวมทั้งแอพเรียก taxi อย่าง Uber ก็ควรจะมีไว้ และที่สำคัญแอพ Translate แปลภาษาแบบออฟไลน์ เจอภาษารัสเซียก็งงเด้ !

4. ค่าเงิน 1 RUB (รูเบิล) เท่ากับ 0.5 บาทไทย

5. ขนม อาหารตัวช่วยก็พกมาด้วย ถ้าไม่ค่อยชอบอาหารยุโรปหรือคิดถึงอาหารไทย เราพักแบบโฮสเทลมีห้องครัวส่วนกลางให้ทำอาหารได้ ซื้อของสดจากซุปเปอร์มาร์เกตมาทำกิน ขอบอกว่าโยเกิร์ตที่นี่อร่อยมาก อีกทั้งเบียร์ ว๊อดก้า ไวน์ก็ราคาถูกไปอีก

6. เตรียมฟิตร่างกายให้ดี เพราะเราจะเน้น เดิน เดิน และก็เดิน อากาศหนาวเดินเที่ยวชิลๆ ให้ร่างกายอุ่น

ไม่ว่าจะอย่างไร การเดินทางท่องเที่ยวเราต้องดูแลตัวเอง ระมัดระวัง จัดการตัวเองให้ดี อย่าให้เป็นที่ล่อตาล่อใจของพวกมิจฉาชีพ เราควบคุมคนอื่นไม่ได้ ก็ต้องจัดการตัวเองให้ดีอย่างให้มีช่องว่างให้ใครมาทำอะไรเราได้ คนรัสเซียหน้าดุไม่ค่อยยิ้ม เค้าต้องยิ้มแบบมีเหตุผล แต่ใจดีให้การช่วยเหลือ เอ้า !!! เริ่มได้ รัสเซีย เที่ยวแล้วยัง

ที่เที่ยวมอสโคว์ (Moscow)

มอสโคว์ เป็นเมืองหลวงของประเทศรัสเซีย เราเริ่มต้นบินลงที่สนามบิน Domodedovo เรียก taxi ด้วยแอพ Yandex และ Uber ใช้ 2 แอพเทียบกันตัวไหนราคาถูกกว่าก็เลือก ได้ taxi พาเข้าเมืองไปที่พักที่จองไว้ ชื่อ HOSTEL KREMLIN LIGHTS ซึ่งเราจองไว้ช่วงหน้านานเลย เพราะกลัวจะเต็ม ทำเลดีมากเป็นศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยว ใกล้เมโทรด้วย จากนั้นเริ่มออกเที่ยวกันได้ Moscow เที่ยวไหนบ้าง ตามไปๆๆ ค่ะ

1. Cathedral of Christ the Saviour

อยู่ใกล้ที่พัก เดินมา 5 นาทีก็ถึง อาคารสีขาว โดมสีทองอร่าม ด้านหน้าของวิหารติดกับแม่น้ำ Moskva มองเห็นพระราชวังเครมลิน Kremlin ที่ยิ่งใหญ่

2. พระราชวังเครมลิน Kremlin

ภายในพระราชวังเครมลิน ก็มีโบสถ์ภายในวังที่สำคัญ และมีพิพิธภัณฑ์ ภายในบริเวณพระราชวัง มีอะไรที่น่าสนใจให้เที่ยวชมเยอะนะคะ ทั้งประวัติศาสตร์ ศาสนา แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายใน

เดินออกประตู Red Square

3. St.Basil’s Cathedral

อยู่ที่บริเวณด้านหน้าของ Red Square คือเป็นแลนด์มาร์คของเมืองมอสโคว์เลยก็ได้ว่า เรียกกันอีกอย่างคือ โบสถ์หัวหอมสีแฟนซี

4. Red Square

ศูนย์กลางในทุกสิ่ง ทั้งพระราชวัง โบสถ์ ห้างสรรพสินค้าชื่อ Gum และลานกางแจ้งที่ไว้จัดงานต่างๆ และ Count Down ปีใหม่ ที่นี่เดินเที่ยวได้ทั้งวัน เช้ายันค่ำ

5. Izmaylovo Market

ตลาดขายของที่ระลึกที่ราคาถูก มีทั้งของมือสอง วางขายกับพื้นก็มี ถ้าไปเสาร์อาทิตย์ของจะเยอะ ต่อรองราคาได้ นั่งเมโทรไปลงสถานี Partizanskaya ต้องเดินเข้าไปอีก 200 เมตร

6. Kolomenskoe

เป็นสวนสาธารณะ ที่ทั้งโบสถ์ และสวนป่า ถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะสวยมากไปอีก เรามาถึงก็ใบไม้ร่วงลงพื้นหมดแล้ว

7. Moscow State University

แวะมาเที่ยวมหาลัยที่สวยที่สุด ตึกใหญ่มากและเก่า พื้นที่ก็เยอะเดินยังไงให้ทั่ว

8. สถาปัตยกรรมรถไฟใต้ดิน Metro

เราให้เวลาครึ่งวันสำหรับการนั่งรถไฟใต้ดินหรือ Metro เที่ยวเกือบทุกสถานี ค่ารถไฟก็ถูก 55 RUB (รูเบิล) ตลอดทั้งสาย ถ้าดูจากผัง Metro เรานั่งเที่ยวเฉพาะสายสีน้ำตาลก็ได้

รถไฟใต้ดินบ้านเค้าทำลึกมากและมีมานานแล้วด้วย สมัยก่อนที่เค้าขุดใต้ดินไว้เพื่อจะหลบภัยสงคราม ลงมาใต้ดินก็นึกว่าเป็นอีกเมือง ตกแต่งและสร้างได้สวยงาม ทำให้เราต้องแวะเที่ยว

จบทริปมอสโคว์ จากนั้นนั่งรถไฟนอน 8 ชั่วโมง ไป St.Petersburg เราจอง online จากเว็บไซต์ไว้แล้ว ให้มาก่อนเวลาซัก 2 ชั่วโมง เพื่อมาออกตั๋วและเผื่อมีประเด็นหรือปัญหาจะได้แก้ไขได้ทัน ไปขึ้นรถไฟที่สถานี MOSKVA OKTIABSKAIA หรือ สถานี Leningradsky ที่เดียวกัน ตู้นอนก็นอนยาวๆ ไปค่ะ บนรถไฟรวมอาหารเช้าให้ด้วย และมีฮีตเตอร์ด้วยอยู่นะ

ถึงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ก็เช้าพอดี แต่เที่ยวหน้าหนาว 9 โมง ถึงจะสว่าง พักที่เราจองไว้ก็อยู่ติดกับสถานีรถไฟ ชื่อ Hostel Whose Suitcase อยู่ชั้น 3 ทำเลดีมาก ใกล้ Metro มีห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เกตอยู่ใกล้ แต่จะเช็คอินที่พักได้ก็ตอนบ่ายสอง ต้องฝากกระเป๋าไว้ก่อนแล้วไปเที่ยวค่อยกลับมาเช็คอิน

ที่เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St.Petersburg)

เมืองศูนย์กลางประวัติศาสตร์ มากมายด้วยศิลปะวัฒนธรรม ได้ชื่อว่า เป็นราชินีแห่งยุโรปเหนือ

1. St. Isaac's Cathedral

สามารถขึ้นไปด้านบนของโบสถ์เพื่อชมวิวมุมสูง 360 องศาได้ อาจจะเดินเหนื่อยหน่อยนะ บันไดวน ด้านในเป็นโบสถ์สไตล์ยุโรป มีงานศิลปะ ทั้งภาพวาด แกะสลัก รูปปั้น มีเสาหินอ่อนสี เขียว-น้ำเงิน เค้าบอกว่าหาดูยากที่สุดในโลก

2. พระราชวังฤดูหนาว Hermitage

ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง อยู่ถัดมาจาก St. Isaac's Cathedral มีสิ่งของในความครอบครองเป็นจำนวนมาก และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก่าที่สุดในโลก พระราชวังฤดูหนาวเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ถ้ามาช่วงแสงเย็นจะสวยมาก

ภายในมีห้องแสดงสิ่งของ แนะนำให้หยิบแผนที่ภายในไปด้วย เพราะที่นี่กว้างมากอาจเดินหลงหาแล้วทางออกลำบาก แต่ก็สอบถามเจ้าหน้าที่ได้

3. Kazan Cathedral โบสถ์คาซาน

โบสถ์นี้ยังคงมีผู้คนเข้ามาประกอบศาสนพิธีกันอยู่เยอะ มีเสาหินทั้งสองข้างโค้งยาว ตั้งอยู่ริมถนน Nevsky ที่เป็นถนนเส้นหลักของตัวเมือง

4. Church of the Savior on Spilled Blood หรือโบสถ์หยดเลือด

โบสถ์นี้สร้างไว้เป็นอุนสรณ์แด่พระเจ้าชาร์อเล็กเซนเดอร์ที่ 2 ถูกลอบปลงพระชนม์ที่นี่ ซึ่งอยู่อีกฝั่งถนนกับ Kazan

5. Saint Petersburg Mosque

มัสยิดใหญ่ประจำเมือง มีสีสันโดดเด่น

6. Peter and Paul Fortress

ข้ามถนนจาก Saint Petersburg Mosque ก็เจอป้อม Peter and Paul Fortress ภายในมีโบสถ์สำคัญ ที่เก็บพระศพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช รวมทั้งหลุมฝังพระศพของราชวงศ์โรมานอฟหลายพระองค์ หนึ่งในนั้น คือ พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ที่ถูกสังหารทั้งครอบครัว

ที่นี่จะเป็นเกาะกลางแม่น้ำ เราจะได้เห็นวิวสะพานและพระราชวังด้านนอกป้อมที่สวยงาม

จากตรงนี้ก็สามารถเดินเรื่อยๆ ไปจนถึงพระราชวังฤดูหนาว Hermitage ได้

7. พระราชวังฤดูร้อน Peterhof

พระราชวังนี้แตกต่างจากหลายที่ที่ไป ด้านหน้าเป็นทะเลบอลติกสีน้ำเงินเข้ม มีคลองเข้ามาจนเกือบถึงตัวตึก ที่ตั้งอยู่บนเนินดินสูง มีสวนขนาดใหญ่ บ่อน้ำพุและรูปปั้นสีทอง ต้องมาช่วงหน้าร้อนจะสวยกว่านี้

8. Catherine Palace

เข้าชมภายในพระราชวัง ส่วนใหญ่จะมีแต่เครื่องตกแต่งสีทองเหลืองอร่ามเต็มไปหมด ทอง ที่ดูจะเป็นเครื่องแสดงออกถึงอำนาจ ความมั่งคั่ง และความรุ่งเรืองของราชวงศ์ได้เป็นอย่างดี

9. The Naval Cathedral of Saint Nicholas in Kronstadt

เป็นโบสถ์หลักของฐานทัพเรือรัสเซีย เป็นโบสถ์ที่ยังใช้ทำพิธีกรรมและสวดมนต์

เต็มอิ่มกับทริปเที่ยวชม โบสถ์ วัด วัง พิพิธภัณฑ์สถาน ต่างๆ ของรัสเซียที่ยิ่งใหญ่อลังการ ถ้าให้ดีสำหรับใครที่จะไปอยากให้อ่านประวัติศาสตร์ตามไปด้วยก็ดีนะคะ ที่เราเคยเรียนมาจะได้อิน เข้าใจ ถึงความเป็นมา ความรุ่งเรืองในสมัยก่อน ถ้ามีโอกาส มีเวลา หาตั๋วโปรโมชั่นมาเที่ยวรัสเซียนะคะ เที่ยวรัสเซียไม่แพงอย่าที่คิด

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ติดตามและพูดคุยกันต่อได้ที่

Fanpage เที่ยวแล้วยัง:www.facebook.com/welikejourney

เว็บไซต์:www.welikejourney.com

Email :lingple07@gmail.com IG: lingple

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร