0

Traveloka TH

14 Mar 2020 - 10 min read

20 ที่เที่ยวเกาหลี หนีร้อนไปพึ่งเย็น

เกาหลีใต้ เราขอยกให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางต่างแดนยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย สำหรับ “เกาหลีใต้” ประเทศที่ครบครันทั้งวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่เที่ยวหลากหลายสไตล์ อาหารแสนอร่อย แถมยังถ่ายรูปสวย ได้ฟีลโรแมนติกประหนึ่งอยู่ในฉากของซีรีส์เรื่องดัง ที่สำคัญช่วงต้นปีแบบนี้อากาศดีเย็นสบาย แล้วเราจะทนกับอากาศร้อนบ้านเราทำไม ไปเที่ยวเกาหลีกันได้เลย Taveloka Xeperience รวมมาให้แล้ว 20 ที่เที่ยวเกาหลีอากาศเย็นแน่นอน

1.พระราชวังเคียงบก (Gyeongbokgung)

อลังการงานสร้างสมกับเป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล โดยพระราชวังเคียงบกสร้างขึ้นในปี 1394 ภายในบริเวณของพระราชวังมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจคือ พระที่นั่งคึนจองวอง และศาลาเคียงฮวยรู ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ พร้อมสวนสวยโดยรอบให้ความร่มรื่น และมีฉากหลังเป็นเขาพูกักซาน เรียกว่ามีทั้งทัศนียภาพที่สวยงามและอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การเช่าชุดฮันบกเพื่อมาเดินชมวิวและถ่ายรูปรัว ๆ

ซื้อทัวร์ พระราชวังเคียงบก กับ Traveloka Xeperience

2.หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)

ภายในหมู่บ้านมีอาคารแบบดั้งเดิมของเกาหลีที่เรียกว่า “ฮันอก” กว่า 100 หลัง ซึ่งเดิมเป็นที่อยู่ของเหล่าขุนนางสมัยก่อน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมเกาหลีสมัยราชวงศ์โชซอนที่คงอยู่จนถึงปัจจุบันท่ามกลางตึกรามบ้านช่องอันทันสมัยของกรุงโซล โดยบ้านหลายหลังในหมู่บ้านถูกดัดแปลงให้เป็นศูนย์วัฒนธรรม เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร โรงน้ำชา สำหรับให้บริการแก่นักท่องเที่ยว และอีกจำนวนไม่น้อยเป็นบ้านที่มีคนอาศัยอยู่จริง

3.หอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower)

เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1980 โดยใช้ชื่อว่า โซลทาวเวอร์ ก่อนจะรีโนเวทในปี 2005 และใช้ชื่อใหม่ว่า หอคอยเอ็นโซล โดยจุดชมวิวแบบพาโนราม่าสุดงดงามแห่งนี้ ตั้งอยู่บนยอดเขานัมซัง สูง 236 เมตร นอกจากจุดชมวิวเมืองโซลแล้วบนหอคอยยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงละครเด็ก ร้านขายของที่ระลึก หอดูดาว ส่วนคู่รักห้ามพลาดการคล้องกุญแจบริเวณ Roof Terrace ของ N Plaza เพื่อให้รักยืนยาว

ซื้อบัตร หอคอยเอ็นโซล กับ Traveloka Xeperience

4.วัดพงอึนซา (Bongeunsa)

ใครมาเกาหลีเพื่อติ่งที่ Coex Mall อย่าลืมเจียดเวลาแวะวัดพงอึนซาซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามห้างดังแห่งนี้ จะได้มาไหว้พระขอพรให้สมหวังดังปรารถนา โดยวัดพุทธนิกายมหายาน อายุกว่า 1,200 ปี นี้ สร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์วอนชอนแห่งราชวงศ์ชิลลา จุดเด่นของวัด คือ พระพุทธรูปหินอ่อนแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี มีความสูงถึง 23 เมตร และหอพระสูตรพันจอน ที่มีการสลักคัมภีร์ไว้ 3,479 บท รวมถึงโคมดอกบัวที่ประดับประดาทั่วทั้งวัด

5.อุทยานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทงแดมุน (Dongdaemun History & Culture Park)

ถ้าคุณกำลังมองหามุมถ่ายรูปล้ำ ๆ ฟีลประหนึ่งอยู่ในโลกอนาคตแนะนำให้มาที่ อุทยานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทงแดมุน ภายในอาคารมีทั้งห้องประชุม พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมเกาหลี พื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ นิทรรศการ Work Shop คอนเสิร์ต ฯลฯ นอกจากนั้นยังเป็นที่จัดแสดง LED Rose Garden เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินชิลล์ถ่ายรูปเพราะดีไซน์แสนเก๋แถมจะมาช่วงกลางวันหรือกลางคืนก็อากาศดี เย็นสบาย

6.คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon)

ลืมไปเลยกับภาพคลองน้ำเน่าในอดีต เพราะหลังจากปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ในปี 2003 คลองชองกเยชอนก็กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวเกาหลี รวมถึงเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่เหล่านักท่องเที่ยวทั่วโลกไม่พลาดมาเช็คอิน พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศร่มรื่นเย็นชุ่มฉ่ำของสายน้ำและต้นไม้เขียวขจี เหนือคลองจะมีสะพานทั้งหมด 20 สะพาน ส่วนบริเวณกำแพงทั้งสองข้างริมคลองประดับด้วยหินอ่อน และประติมากรรมสุดอาร์ต

7.มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Womans University)

หนึ่งในโลเคชั่นสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวต้องมาปักหมุด โดยเฉพาะการโพสต์ท่าแนว ๆ ในมุมถ่ายรูปฮิตของมวลมหาชนอย่างตึก Ewha Campus Complex ของมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา ตึก 6 ชั้นที่มีลักษณะเหมือนเจาะลงมาใต้ดิน นอกจากนี้ยังมีมุมสวยเก๋อีกมากมายภายในมหาวิทยาลัยให้แชะภาพ เช่น อาคารสไตล์ยุโรป สวนสวยบนเนิน ส่วนบริเวณถนนหน้ามหาลัยที่เรียกว่าตลาดอีแดก็เป็นอีกจุดที่ต้องไปตำเพราะเป็นแหล่งช้อปของดีราคาถูก

8.วัดซัมกวางซา (Samgwangsa Temple)

เปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวปูซานกันบ้าง โดยหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดนิยมของเมืองนี้ คือ วัดซัมกวางซา ซึ่งก่อตั้งในปี 1986 ภายในวัดมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมโบราณ มีเจดีย์ 9 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งบริเวณส่วนหัวเจดีย์เป็นทองคำรูปทรงดอกบัว ส่วนอาคารอื่น ๆ ภายในวัดก็ล้วนงดงามสะดุดตา ทั้งยังมีบรรยากาศที่ร่มรื่นมาก ๆ เนื่องจากวัดตั้งอยู่บนเนินเขาของภูเขาแพคยาง ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองปูซานได้อีกด้วย

9.หมู่บ้านวัฒนธรรมกัมซอน (Gamcheon Culture Village)

ใครที่ชอบอ่านคอนเทนท์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวน่าจะคุ้นตากันไม่น้อย เพราะรูปหมู่บ้านวัฒนธรรมกัมซอนในมุมสูงถือเป็นอีกหนึ่งภาพจำยามนึกถึงแลนด์มาร์คระดับท็อปของเมืองปูซาน โดยหมู่บ้านสีพาสเทลสุดคิวท์ที่เรียงรายไปตามแนวภูเขา แห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่มีความโดดเด่นและเก่าแก่ นอกจากถ่ายรูปสวยบรรยากาศดีแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านศิลปะ ให้ได้ชิม ช้อป ชิลล์ กันเพลินๆ

ซื้อทัวร์ หมู่บ้านวัฒนธรรมกัมซอน กับ Traveloka Xxperience

10.วัดแฮด็องยงกุซา (Haedong Yonggungsa)

กินขาดด้วยโลเคชั่นต้องยกให้วัดแฮด็องยงกุซา ที่โดดเด่นบนโขดหินริมทะเลมาตั้งแต่ปี 1376 และได้ทำการบูรณะอีกครั้งในปี 1970 จนมาถึงปัจจุบัน โดยมีเจดีย์สามชั้น และสิงโตสี่ตัว หันหน้าออกไปทางทะเล นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์สีทองและองค์เจ้าแม่กวนอิมให้สักการะ สำหรับสายมูห้ามพลาดการไหว้พระสังกัจจายน์สีทองอร่ามเพื่อขอให้ประสบความสำเร็จและการดื่มน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ Yak Suh Toh เพื่อความเป็นสิริมงคล

11.สวนแทจงแด (Taejongdae Resort Park)

สัมผัสกับลมทะเลที่เย็นสบายและมีกลิ่นอายเฉพาะตัวอันเหมาะแก่การพักผ่อน พร้อมกิจกรรมหลากหลายแบบครบจบในที่เดียว ณ สวนสาธารณะริมทะเลขนาดใหญ่แห่งนี้ โดยสวนแทจงแดมีพื้นที่ประมาณ 1,100 ไร่ ประกอบไปด้วยวัดแทจองซา, วัดกัมยองซา, ประภาคารยงโด (เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของสวนนี้), ลานชมวิวแทจองแด, หน้าผาหินและชายหาดที่เป็นหินกรวด พร้อมเซอร์วิสนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ด้วยบริการรถลากและเรือนำเที่ยว

12.สวนสาธารณะยงดูซาน (Yongdusan Park)

ชมวิวท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายกันต่อ ณ สวนสาธารณะยงดูซาน แลนด์มาร์คสำคัญที่ตั้งอยู่บนภูเขายงดูซาน มีพื้นที่กว่า 69,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยสวนสวยที่มีพรรณไม้กว่า 70 สายพันธุ์ (ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะยิ่งสวยเป็นพิเศษ), หอระฆังโบราณ, ศาลเจ้า, อนุสาวรีย์, เจดีย์หิน, พิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของปูซานทาวเวอร์ ซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งในยามกลางวันและยามค่ำคืนของเมืองปูซาน

13.ชายหาดแฮอึนแด (Haeundae Beach)

สมกับเป็นชายหาดระดับเอลิสต์ของปูซาน เพราะชายหาดแฮอึนแดโดดเด่นด้วยหาดทรายสีขาวยาวถึง 1.5 กิโลเมตรและมีความกว้างประมาณ 40-50 เมตร น้ำทะเลสะอาดใส อากาศบริสุทธิ์ลมเย็นสดชื่น โอบล้อมด้วยตึกระฟ้าที่ทันสมัย เป็นภาพของธรรมชาติอันงดงามสมบูรณ์ที่ผสานกับความเป็นเมืองศิวิไลซ์ได้อย่างลงตัว ไม่แปลกที่ชายหาดนี้จะถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม และงานเทศกาลต่าง ๆ ตลอดทั้งปี

14.ชายหาดซองโด (Songdo Beach)

อีกหนึ่งชายหาดเกาหลีที่น่าปักหมุดมาก ๆ โดย ซองโด แปลว่า เกาะสน สื่อถึงป่าสนที่อยู่บริเวณปลายสุดของหาด โดยชายหาดนี้โดดเด่นด้วยสกายวอล์คความยาว 365 เมตร ซึ่งมีลักษณะเป็นทางเดินโค้งไปมา คล้ายมังกรที่ทอดตัวยาวลงไปในทะเล นอกจากนี้ยังมีกระเช้า Busan Air Cruise ที่ยาวถึง 1.62 กิโลเมตรช่วยย่นระยะเวลาการข้ามฝั่งให้เหลือเพียง 8 นาที รวมถึงสามารถชมวิวจากมุมสูงได้อย่างเพลิดเพลินและน่าตื่นตาตื่นใจ

15.ถ้ำมานจังกุล (Manjanggul Cave)

ข้ามฝั่งมาที่เกาะเชจูกันบ้าง สำหรับสายธรรมชาติแนะนำเลยกับการเที่ยวถ้ำมานจังกุล อุโมงค์ลาวาตามธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของโลก สมกับที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ ถ้ำนี้มีความยาวประมาณ 13,422 เมตร แต่สามารถเข้าชมได้ในระยะ 1,000 เมตรแรกเท่านั้น โดยตลอดระยะทางภายในถ้ำจะเต็มไปด้วยหินงอกลาวา, หินย้อยลาวา และเสาหิน ที่มีรูปร่างสวยแปลกตา มีอุณหภูมิภายในอยู่ที่ 11-21 องศาเซลเซียส

16. หมู่บ้านพื้นเมืองซงอับ (Seongeup Folk Village)

ดูเผิน ๆ เหมือนหลุดเข้ามาในยุคโบราณที่บ้านเรือนยังทำจากหินลาวา และมีหลังคามุงจาก โดยหมู่บ้านพื้นเมืองซงอับเป็นเขตอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านและวิถีชีวิตในแบบดั้งเดิมของชาวเกาะเชจู ลักษณะของหมู่บ้านจำลองมาจากยุคกลางจนไปถึงปลายราชวงศ์โซซอน แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ อาทิ บ้านพักอาศัย ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก มีการแสดงทางวัฒนธรรมที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก เช่น ระบำชาวนาไต่เชือก ขี่ม้าผาดโผน พิธีแต่งงาน

17.ยอดเขาซองซาน อิลชุบง (Seongsan Ilchulbong Peak)

ว่ากันว่ายอดเขาซองซาน อิลชุบงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในเกาหลีใต้ (โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกคาโนลาสีเหลืองสดใสบานสะพรั่งทั่วยอดเขา) งานนี้คงปฏิเสธไม่ได้เพราะนอกจากได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว ที่แห่งนี้ยังถูกขนานนามว่า ยอดเขาแห่งอรุณรุ่ง โดยในระหว่างทางที่เดินไปสู่ยอดเขานั้น จะมีจุดสำหรับพักเหนื่อย และชมวิวของหมู่บ้านซ็องซานโพ และซ็อพชิโกจี ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ากว้างติดทะเล

18.วัดยักชอนซา (Yakcheonsa Temple)

วัดเก่าแก่ของเกาะเชจูนี้ถูกสร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โชซอน มีพื้นที่กว่า 3,305 ตารางเมตร วัดยักชอนซาหรือวัดน้ำศักดิ์สิทธิ์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ พระอุโบสถ ศาลเจ้า และเจดีย์ ภายในวัดมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 3 องค์ โดยองค์กลางเป็นพระไวโรจนพุทธะสูงที่สุดในเกาหลีตั้งอยู่ มีความสูงถึง 5 เมตร ส่วนด้านซ้ายและขวาเป็นพระพุทธรูปสูง 4 เมตร ด้านหน้าของพระอุโบสถเป็นที่ตั้งของศาลาระฆังขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักถึง 18 ตัน

19. อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park)

ที่ตั้งของภูเขาไฟที่สูงที่สุดในเกาหลีอย่าง ฮัลลาซาน ซึ่งมีความสูงถึง 1,950 เมตร จากระดับน้ำทะเล ฉะนั้น กิจกรรมยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวหนีไม่พ้น การปีนเขา บอกเลยว่ามีนักปีนเขามากมายต่างอยากไปพิชิตยอดเขานี้ ในส่วนของเส้นทางขึ้นเขานั้นมีทั้งหมด 7 เส้นทาง แต่มีเพียง 2 เส้นทางเท่านั้นที่ขึ้นไปถึงปากปล่องภูเขาไฟได้ สำหรับมือสมัครเล่นที่เน้นชมวิวแนะนำเส้นทาง Eoseungsaengak Trail เพราะใช้เวลาเบา ๆ แค่ครึ่งชั่วโมง

20.พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลลอค (O’sulloc Tea Museum)

คุ้นเคยกันดีในฐานะของฝากขึ้นชื่อของเกาหลีใต้ ขอบอกว่าแบรนด์ชาสุดฮิตนี้มีแหล่งผลิตชาอยู่ที่เกาะเชจูนี่เอง โดยพิพิธภัณฑ์ชาโอซุลลอค ประกอบด้วยไร่ชาเขียวออเกนิค ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 528,928 ตารางเมตร เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูป นอกจากนี้ยังร้านค้าผลิตภัณฑ์โอซุลลอค และคาเฟ่แสนเก๋ให้ฟินกับเมนูชาเขียวสุดพรีเมียมทั้งไอศกรีม เครื่องดื่ม โรลชาเขียว ทีรามิสุ บิงซู แต่ละเมนูเจ้มจ้นถึงรสชาเขียวมาก ๆ

อย่ามัวรีรอ รีบคลิกจองตั๋วเครื่องบินและที่พักเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะยิ่งจองล่วงหน้าก็ยิ่งได้ราคาและโปรโมชั่นดี ๆ ว่าแล้วไปเช็คราคากันเลยกับ Traveloka เว็บไซต์และแอพลิเคชั่นจองที่พักและเที่ยวบินออนไลน์ ราคาถูก จองง่าย สามารถกดจองได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญราคาที่แสดงเป็นราคาสุดท้าย ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง จึงสามารถคำนวนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้อย่างสะดวกสบายไม่มีพลาด!

รับทราบข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา
สมัครรับจดหมายข่าวของเรา เพื่อคำแนะนำการท่องเที่ยวและรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากขึ้น พร้อมด้วยข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น
สมัคร